วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Tokyo SkyTree - สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น

โตเกียวสกายทรี

โตเกียวสกายทรี
東京スカイツリ
Tokyo Skytree
Tokyo Sky Tree 2012.JPG โตเกียวสกายทรีในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2555
ข้อมูล
ที่ตั้ง ธงชาติของญี่ปุ่น เขตซุมิดะ, โตเกียว, ประเทศญี่ปุ่น
สถานะ เปิดให้บริการแล้ว
เริ่มก่อสร้าง 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2551[1]
แล้วเสร็จ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
เปิดตัว 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
การใช้งาน หอกระจายคลื่น ภัตตาคาร และหอสังเกตการณ์
ความสูง
เสาอากาศ / ยอด 634.0 เมตร (2,080 ฟุต)
หลังคา 495 เมตร (1,624 ฟุต)
ชั้นสูงสุด 450 เมตร (1,476 ฟุต)
รายละเอียด
จำนวนลิฟต์ 13 ตัว
มูลค่า 4 หมื่นล้านเยน
บริษัท
สถาปนิก นิกเกน เซกเกอิ
นายจ้าง บริษัทโอบะยะชิ
ผู้พัฒนา โทบุเรลเวย์
เจ้าของ บริษัท โทบุทาวเวอร์สกายกรี จำกัด
โตเกียวสกายทรี (ญี่ปุ่น: 東京スカイツリー โทเกียวซุไกสึรี ?; อังกฤษ: Tokyo Skytree) หรือเรียก โตเกียวทาวเวอร์แห่งใหม่ (New Tokyo Tower) เป็นหอกระจายคลื่นตั้งอยู่ที่เขตซุมิดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ที่ความสูง 634.00 เมตร (2,080 ฟุต) ซึ่งได้สร้างถึงความสูงนี้แล้วเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 และได้สร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ในปัจจุบัน โตเกียวสกายทรีได้กลายเป็นหอคอยสื่อสารที่สูงที่สุดในโลกสูงกว่าหอคอยแคนตันในเมืองกว่างโจว ประเทศจีน ที่สูง 600 เมตร นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งก่อสร้างบนเกาะที่สูงที่สุดในโลก สูงกว่าอาคารไทเป 101 และเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกอันดับสอง รองจากบูร์จคาลิฟาในดูไบ
ในปัจจุบัน โตเกียวทาวเวอร์ (สูง 333 เมตร) มีความสูงไม่พอที่จะส่งสัญญาณคลื่นโทรทัศน์แบบดิจิตอลให้ครอบคลุม เนื่องจากมีอาคารและตึกสูงจำนวนมากสร้างขึ้นบังสัญญาณบริเวณใจกลางเมือง จึงมีโครงการก่อสร้างโตเกียวสกายทรีขึ้น นำโดยบริษัท โทบุเรลเวย์ จำกัด ซึ่งเริ่มก่อสร้างในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2551 แล้วเสร็จในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 และเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 พฤษภาคม ปีเดียวกัน
ที่มาของการกำหนดความสูงไว้ที่ 634 เมตร เนื่องจากในยุคเอโดะ พื้นที่กรุงโตเกียว จังหวัดคะนะกะวะและจังหวัดไซตะมะในปัจจุบันเรียกว่า มุซะชิ (ญี่ปุ่น: 武蔵-634-Musashi) มุ (六) แทนเลขหก (6) ซะ (三) แทนเลขสาม ชิ (四) แทนเลขสี่

ที่มา http://th.wikipedia.org 

ราคาตั๋วเข้าชม
Floor Guide - เลือกว่าจะชมแค่ชั้น TEMBO DECK
หรือจะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อชมที่ TEMBO GALLERIA
ถ่ายติดสายรุ้งด้วย
ตอนกลางคืนก็เปิดไฟสลับสีสวยงาม

ในฤดูชมดอกซากุระ
ภาพมุมกว้างมองเห็นสิ่งก่อสร้างทั้งแผง
บูธขายตั๋วเข้าชมภายใน Tokyo Skytree

แสดงตำแหน่งที่สำคัญต่างๆภายในชั้น TEMBO DECK
แสดงตำแหน่งที่สำคัญต่างๆภายในชั้น TEMBO GALLERIA
Bird Eye View MAP
ดูยิ่งใหญ่อลังการ

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ขนมญี่ปุ่นสไตล์ตะวันตก

ในสายตาของผม ผมคิดว่าประเทศญี่ปุ่นมีทักษะด้านการออกแบบ packaging ที่สวยงามระดับโลก รวมไปถึงการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ถ้าเราไม่ใช่คนในท้องถิ่นเราอาจจะมีโอกาสสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น ดังนั้นการตัดสินใจซื้อขนมเพื่อเป็นของฝากแก่ญาติพี่น้องหรือ ครอบครัว เราอาจจะเลือกจาก packaging ก็ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าขนมนั้นอร่อยหรือไม่อร่อยอย่างไร

แม้ว่าจะขนมชนิดเดียวกันวิธีทำเหมือนกัน แต่ด้วยศิลปะแห่งแดนปลาดิบก็เนรมิตให้ขนมชิ้นนั้นดูน่ากินได้อีกหลายเท่าตัว เรามาลองดูขนมในญี่ปุ่นกัน



ลูกท้อใน packaging ที่หรูหรา
การจัดวางที่เรียบง่าย แต่มีเสนห์สไตล์ญี่ปุ่น

ขนมอบ ลักษณะเป็นเครปกลิ่นชาเขียวมัทฉะ  จากเกียวโต

ชิโร่ยโคยบิโตะ - ขนมชื่อดังของฮอกไกโด ส่งขายทั่วโลก


มีหลากหลายขนาดให้เลือก
อันบน OmoShiroi Koibito (เลียนแบบเห็นๆ)
อันล่าง Shiroi Koibito (ของแท้)

คล้ายชิโร่ยโคยบิโตะ เป็นแซนวิชไส้ไวท์ช๊อกโกแลต



ผมว่าหลายคนคงจะรู้จักกันดีกับขนมชิโร่ยโคอิบิโตะ (しろいこいびと) ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีขายที่ญี่ปุ่น แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาก็มีขายด้วย เรียกได้ว่าเป็นขนมขึ้นชื่อแห่งเกาะฮอกไกโดเลยทีเดียว ด้วยความหอมของตัวขนมปังสไตล์ฝรั่งเศสที่เรียก ว่า “ลองเดอชาร์”  โดยเจ้าลองเดอชาร์นี้จะเป็นขนมปังย่างแผ่นเบาบาง เมื่อเข้าปากแล้วดูเหมือนจะลายลายในปากเลยทีเดียว และมีลักษณะขนมจะเป็นแบบแซนวิช (サンド) สอดไส้ด้วยไวท์ชอคโกแลตรสชาติกลมกล่อม - หวานหอม (เนื่องจากฮอกไกโดขึ้นชื่อเรื่องนม ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าไวท์ช๊อกจะต้องหอมมัน อร่อยถูกใจแน่ๆ)  เนื่องจากความอร่อยของขนมชนิดนี้ ทำให้ชิโร่ยโคอิบิโตะ ได้รับความไว้วางใจจากชาวญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวต่างชาติ มามากกว่า 30 ปี

ไม่เพียงแต่รสไวท์ช๊อคโกแลตแล้วยังมีรสดาร์กช๊อกโกแลต ให้เลือกซื้ออีกด้วย ขนมนี้มีวางขายทั่วประเทศญี่ปุ่น เลยทีเดียว อีกทั้งยังมีหลากหลายขนาด และรูปทรงให้เลือก ส่วนขนาดที่เหมาะจะนำไปเป็นของฝากให้แก่เพื่อนๆสนิทมิตรสหาย เห็นจะเป็น กล่องแบบ 24 ชิ้น ราคาอยู่ที่ 1,480 เยน (ตอนนี้ไม่รู้ขึ้นรึยัง)

และด้วยคติประจำบริษัทนี้ที่ยึดมั่นเสมอมาคือ “ความอร่อยไม่เปลี่ยนแปลง” ทำให้ลูกค้าต่างวางใจใน ชื่อ ชิโร่ยโคอิบิโตะ นี้เลยทีเดียว

......

ปล. ถ้าใครไปญี่ปุ่นก็ซื้อขนมมาฝากผมบ้างนะคร้าบ....

วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

How to Make Japanese Bento

เมื่อพูดถึงข้าวกล่องแล้วคุณคิดถึงอะไร? ในประเทศไทย เมื่อเราพูดถึงคำว่าข้าวกล่อง มันคือการนำอาหารจานเดี่ยวมาใส่กล่อง และคนไทยก็เรียกสิ่งๆนั้นว่าข้าวกล่อง คุณลองจินตนาการว่า ถ้าคุณจะนั่งรถไฟจากกรุงเทพไปกาญจนบุรี คุณอาจจะบอกกับเพื่อนให้ซื้อข้าวกล่องจากสถานีรถไฟมาให้ด้วยสิ เมื่อคุณเปิดข้าวกล่องนั้นแล้วคุณก็อาจจะพบ ผัดกระเพรา หมู(ไก่)ทอดกระเทียม ข้าวผัด ผัดพริกแกง เป็นต้น
                                   
แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้ว ข้าวกล่อง หรือ Bento นั้นอาจจะมีความหมายหรือรูปลักษณ์ที่แตกต่างกับไทยโดยสิ้นเชิง ในคำว่าข้าวกล่องของญี่ปุ่นแล้ว จะมีความหมายว่า ข้าวและกับ มาจัดเรียงลงในกล่องให้สวยงามน่ารับประทาน ไม่ว่ามันจะอร่อยหรือไม่อร่อย ก็แล้วแต่ แต่ผมการันตีได้เลยว่าข้าวกล่องของญี่ปุ่น ต้องดูสวยงามน่ารับประทานกว่า ข้าวกล่องของไทยแน่ๆครับ (แต่รสชาตินี่ไม่แน่นะ ของไทยบางร้านก็อร่อยนะ) 



ลักษณะการทานอาหารของเด็กไทย กับ เด็กญี่ปุ่น ที่โรงเรียนก็แตกต่างกัน เด็กญี่ปุ่นมักจะนำข้าวกล่องที่คุณแม่(หรือพ่อ) ทำไปกินที่โรงเรียน ซึ่งมักจะแตกต่างจากไทยคือ โรงเรียนอาจจะมีจำหน่าย หรือ จัดเตรียมไว้ให้ ในบทความนี้ผมคงไม่ได้จะมาเปรียบเทียบ ว่าของไทยด้อยกว่าของญี่ปุ่นแต่อย่างใด (ข้าวกล่องละ 35 บาทคุณจะเอาไรมากครับ เบนโตะญี่ปุ่นนี่ 200-300 บาทได้นะครับ) 


เรามาดูวิธีการทำข้าวกล่องญี่ปุ่นอย่างง่ายๆกันดีกว่า :)

ข้าว (ข้าวสวยและมักจะโรยหน้าด้วยงาดำ สาหร่ายโนริ หรือ ผงโรยข้าว(furikake) ทำให้น่ากิน)
+
เลือกกับข้าว(Okazu) มา 1 อย่าง:
กับข้าว (ตัวหลัก):
  • คาราอาเกะ - Karaage (ไก่หมักนำไปทอดกรอบๆ)
  • มินิแฮมเบิร์ก Mini-hamburg (เนื้อบดชิ้นไม่ใหญ่มาก นำไปย่างบนแผ่นกระทะร้อน เคี้ยวง่ายไม่เหนียว)
  • ปลาแซลมอนเค็ม Salted Salmon (นำปลาแซลมอนไปย่างบนกระทะ อาจจะหมักด้วยเกลือเพิ่มรสเค็ม)
  • กับข้าวที่เหลือจากมื้อเย็นเมื่อวาน (ก็ํเอาไปเป็นโอะคะซึ ได้เหมือนกันนะ)
+ 1 or more of these:
เครื่องเคียง, ผัก:
  • มะเขือเทศเชอรี่
  • ผักกาดหอม , วอเตอร์เครส หรือ ผักสลัดอื่นๆ
  • แตงกวาสไลด์โรยด้วยเกลือ
  • ของดอง Otsukemono (โดยมากจะมี ตะก้วง มะเขือม่วง แตงกวา(คัมเปียว) เป็นต้น)
  • ถั่วแระ Edamame 
  • บล็อกโคลี่นึ่งหรือต้ม
  • สลัดมันฝรั่ง หรือ สลัดฟักทอง
  • มันเทศญี่ปุ่น โกโบะ, แครอท หรือ ผักอื่นๆที่คุณมีอยู่ในตู้เย็น
+/- 1 of these:
เครื่องเคียงประเภท ให้พลังงาน:
  • ไข่หวานย่าง Tamagoyaki
  • ไส้กรอก (ถ้าทำให้เด็กๆ เอาเป็นไส้กรอกรูป ปลาหมึก)
  • ลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น Kamaboko (Japanese rice cake)
  • อะไรก็ตามที่เป็น กับข้าวหลักแต่ทำมาในปริมาณน้อยๆ ก็จัดเป็นเครื่องเคียงละ


แค่นีั้คุณก็จะได้ โอะเบนโตะญี่ปุ่นแบบง่ายๆละ (กับแต่ละอย่างซื้อแบบสำเร็จมาเลยจะได้สะดวก)